A) The Simple Present Tense : S + V1
ใช้อธิบายชีวิตประจำวัน งานประจำ หรือ เหตุกราณ์ ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำ มันสามารถใช้อธิบายถึงความคิดเห็น หรือ ความจริงทั่วไปที่เกิดขึ้น
ตัวอย่าง Statement of Fact : I always go to city in the morning.
Opinions : I like this class.
Regular events : I have classes every day from 9.00 to 19.00
Habits or Routines : I have classes two day a week.
** Auxiliary คือ Verb ช่วย
** Main Verb คือ Verb แท้
Adv และ Expression of frequency จะปรากฏอยู่ใน Tense นี้เสอม เช่น Always, every day, sometime ฯลฯ
B) Adverb of Frequency and Other time Expression ใช้อธิบายความถี่ของการกระทำ ส่วนมากใช้ใน Simple Present Tense จะอยู่หลัง V to be แต่จะอยู่หน้า กริยาแท้
เช่น I am usually get up at 6.00 o’clock.
She always late to go to school.
** Ever = หมายถึง Any time จะอยู่หลัง Subject ในคำถาม
เช่น Do you ever come late?
C) The Present Continuous Tense
ใช้อธิบายกิจกรรมในขณะที่พูด , กิจกรรมที่ดำเนินต่อไป หรือ แผนการในอนาคต
ตัวอย่าง 1.กำลังทำอยู่ เช่น 1.I am going at the library.
2.กำลังดำเนินอยู่ เช่น 2.She is taking math this semester.
3.แผนในอนาคต เช่น 3.We are moving tomorrow.
** Time expression often ที่ใช้บ่อยในการบอกเวลาความถี่ ของ Present Continuous Tense คือ now, right now, at the moment, today, this week, currently
1) No action Verb and the Continuous Tense
1.1 Verb ที่ไม่นิยมใช้ใน Continuous tense หรือ อาจใช้ได้ในสถานการณ์ที่โดยเฉพาะพิเศษมีดังนี้
appear , mean , appreciate, need, be, prefer, believe, dislike, hate, know, like, love, want, understand, sound, seem, remember เช่น - I don’t understand your question.
- What do you mean?
Note: verb ซึ่งแสดงความรู้สึกหรือ ความคิดไม่นิยมใช้ใน Continuous Tense แต่ในบางสถานการณ์ คำว่า However, mean, need, and want จะปรากฎใน Present perfect continuous tense เช่น - I have been meaning to call you.
- I have wanting to talk to you. S + have been + Ving
1.2 Possession = การครอบครองเป็นเจ้าของ (ไม่นิยมเติม V.ing) มีดังนี้
Belong to, own, have, possess เช่น
- She owns a house.
- She also has a car.
Note ในรูป – ing จะใช้กับ have ในบ้าง idiomatic(สำนวน) เช่น We are having lunch at 12.00 o’clock.
1.3 Perception = การรับความรู้สึก (ก็ไม่นิยมเติม V.ing) มีดังนี้
Hear, smell, look, see, taste เช่น
- This pizza tastes good.
- It smells delicious.
Note การใช้รูป – ing ใช้แสดงเฉพาะ Action ซึ่ง hear และ see บางครั้งสามารถใช้เป็น Present perfect continuous tense เช่น
- I am tasting the pizza now.
- We have been hearing stories about you.
กฏการเติม ing
1. ถ้าVerb แท้ลงท้ายด้วย Y ต้องเปลี่ยน Y เป็น I ก่อนเติม – ing
เช่น Cry Crying Carry Caring
2. ถ้า Verb แท้ลงท้ายด้วย E ให้ตัดทิ้งก่อนเติม – ing
เช่น Come Coming Use Using Write Writing
3. ถ้าตัวที่ 2 นับจากตัวสุดท้ายเป็นสระ a e I o u จะต้องเติมตัวสุดท้ายเพิ่ม 1 ตัวก่อนเติม – ing
เช่น eat eatting
4. ถ้านอกเหนือจากข้างต้นเติม - ing ได้เลย
เช่น go going read reading
A) The Past Continuous Tense ( S + was / were + V.ing)
เป็นการอธิบายถึงกิจกรรมที่พึ่งเกิด หรือ ผ่านไปเมื่อเร็วๆนี้ ในเวลาที่ผ่านไปแล้ว และ สามารถใช้อธิบายฉากต่างๆ ในอดีต
หลักการใช้
1. ใช้เมื่อผ่านไปเร็วๆ นี้
เช่น I was watching the news a moment ago. The announcer was just telling about the fire.
2. ใช้เมื่อเจาะจงเวลาในอดีต
เช่น Joy was studying at the library at the time of the fire. At 8.00 , he was writing his report.
3. ใช้ในกิจกรรมที่ดำเนินในระยะเวลาในอดีต
เช่น My classmate were working on the project all summer.
I was doing homework during the morning.
B) The Past Simple Tense (S+ V2)
ใช้อธิบายกิจกรรม หรือ สถานการณ์ที่เริ่ม และ จบในอดีต
1.กิจกรรมในอดีต I won a scholarship a year ago.
2.สถานการณ์ในอดีต He didn’t like math.
Note : การใช้ Time expressions ของ Simple Past Tense มีดังนี้
Yesterday, last week, หรือ ago เป็นการบอกเวลาในอดีต
การทำให้เป็น V2 (อดีต) มี 2 วิธี
1. เติม – ed
2. เปลี่ยนรูป
C) การใช้ Used to = เคย
Used to จะต้องตามด้วย Infinitive คือ กริยาที่ไม่มีการเปลี่ยนรูปใดๆ ทั้งสิ้นใช้อธิบายกิจกรรม / สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในอดีต แต่ในขณะที่พูดไม่ได้เกิดขึ้นอีกแล้ว เช่น
- I used to live in a small town. (Now I live in a big city)
- He used to play tennis on Monday. (Now he plays on Sunday)
** Note จำไว้หลัง TO จะต้องเป็น Verb ที่ไม่มีการเปลี่ยนรูปเท่านั้น
The Simple Future and Future Continuous Tense
The Simple Future
A) Be going to = ใช้บอกแผนการในอนาคต มันมักออกเสียงว่า “ gonna”
เช่น I am going to study tonight.
She is going to get good grades this term.
** going to เป็นอนาคตที่มีการวางแผนการในอนาคต
B) Will = ใช้บอกถึงอนาคต แต่เป็นการคาดเดา, สัญญาในอนาคต ไม่มีการวางแผน
เช่น I will work much harder from now on.
Will you help me with my work?
Note : คำที่ใช้บอกอนาคต เช่น Tomorrow, next year, from now on, in the future.
The Future Continuous
ใช้อธิบาย Action ที่จะดำเนินไปในอนาคต เช่น A week from today, we’ll be flying home.
Note : มีคำที่แสดงถึงอนาคต เช่น The day after tomorrow, a week (month) from today, next week.